อานิสงส์การถวายทานด้วยสิ่งของต่างๆ
เรื่องนี้มาในคัมภีร์ อปทาน ตอน ปิลินทวัจฉเถราปทาน คือหมายถึงเป็นเรื่องของพระปิลินทวัจฉะ ท่านเป็นพระอรหันต์องค์หนึ่งในครั้งพุทธกาล พระพุทธเจ้าทรงยกย่องพระปิลินทวัจฉะว่า เป็นผู้เลิศกว่าพระภิกษุทั้งหลายในทางเป็นที่รักแห่งเทวดา คือเทวดาจะรักท่านมากด้วยความดีที่ท่านได้สร้างมาทั้งในอดีตชาติและปัจจุบัน ชาติ เมื่อท่านบรรลุเป็นพระอรหันต์แล้ว ท่านได้ระลึกชาติในอดีตกาลของท่านว่า
ในอดีตกาลผ่านมาแล้วแสน กัป ครั้งนั้นได้มีพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งอุบัติตรัสรู้เผยแผ่พระพุทธศาสนาอยู่ ในโลก ทรงพระนามว่า พระปทุมุตตรสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงประกาศพระศาสนาตั้งหลักมั่นอยู่ที่พระนครหังสวดี พระปิลินทวัจฉะเกิดเป็นผู้มีทรัพย์ได้ถวายทานแก่พระภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้า เป็นประมุขด้วยสิ่งของมากมายหลายอย่าง อานิสงส์แห่งการถวายทานด้วยสิ่งของต่างๆ ย่อมให้ผลต่างๆ แก่ท่านซึ่งท่านได้บรรยายไว้ละเอียด จะได้นำมากล่าวเพื่อเพิ่มพูนศรัทธาปสาทะแก่ท่านสาธุชนทั้งหลายดังต่อไปนี้
การทำบุญด้วยร่มย่อม มีอานิสงส์ ๘ ประการคือ ๑.ไม่รู้สึกหนาว ๒.ไม่รู้สึกร้อน ๓.ละอองและธุลีไม่แปดเปื้อน ๔.เป็นผู้ไม่มีอันตราย ๕.ไม่มีจัญไร ๖.มหาชนยำเกรงทุกเมื่อ ๗.มีผิวพรรณละเอียด ๘.เป็นผู้มีใจกว้างขวาง และเมื่ออุบัติเป็นเทวดา ฉัตรหนึ่งแสนคันอันประกอบด้วยเครื่องประดับทุกอย่าง ย่อมทรงไว้เหนือศีรษะของผู้ทำบุญด้วยร่ม
การทำบุญด้วยผ้าย่อม มีอานิสงส์ ๘ ประการคือ ๑.เป็นผู้มีผิวพรรณเปล่งปลั่งดังทองคำ ๒.ปราศจากธุลี ๓.มีรัศมีผ่องใส ๔.มีเดช ๕.เนื้อตัวผิวพรรณละเอียดอ่อน ๖.เมื่อท่องเที่ยวอยู่ในภพย่อมมีผ้าขาวแสนผืน ๗.ผ้าเหลืองแสนผืน ๘.ผ้าแดงแสนผืน ทรงอยู่เหนือศีรษะ เธอย่อมได้ผ้าไหมผ้าป่าน ผ้ากัมพล ผ้าฝ้ายในที่ทุกแห่ง นี่เป็นอานิสงส์แห่งการถวายผ้าเป็นทาน
การถวายบาตรพระ ย่อมมีอานิสงส์ ๑๐ ประการคือ ๑.ย่อมได้บริโภคโภชนาหารในภาชนะทองคำ ภาชนะแก้วมณี ภาชนะเงิน และภาชนะที่ทำด้วยทับทิมในกาลทั้งปวง ๒.เป็นผู้ไม่มีอันตราย ๓.ไม่มีจัญไร ๔.มหาชนยำเกรงทุกเมื่อ ๕.เป็นผู้ได้ข้าว น้ำ ผ้า และที่นอนเป็นปกติ ๖.โภคสมบัติไม่พินาศ ๗.เป็นผู้มีจิตมั่นคง ๘.เป็นผู้ใคร่ธรรมทุกเมื่อ ๙.เป็นผู้ไม่มีกิเลส ๑๐.ไม่มีอาสวะ
การถวายมีดโกนย่อม มีอานิสงส์ ๘ ประการคือ ๑.เป็นผู้กล้า ๒.ไม่มีความเดือดร้อน ๓.ถึงที่สุดในเวสารัชธรรม (ธรรมที่ทำให้เป็นผู้แกล้วกล้าในหมู่ชน) ๔.เป็นผู้มีธิติ (ความหนักแน่นอดทน) ๕.มีความเพียร ๖.มีใจอันประคองไว้ด้วยสติทุกเมื่อ ๗.ย่อมได้ญาณอันสุขุมเครื่องตัดกิเลส ๘.มีความบริสุทธิ์อันมิอาจชั่งตวงวัดได้
การถวายมีดพร้าย่อม มีอานิสงส์ ๕ ประการคือ ๑.ย่อมได้ความเพียรเป็นที่พึ่งพิงได้ ๒.มีขันติความอดทน ๓.เป็นผู้มีจิตไมตรี ๔.มีปัญญาคมกล้า ๕.มีญาณสุกสว่างเสมอด้วยแก้ววิเชียร
การถวายเข็มเย็บผ้าย่อม มีอานิสงส์ ๕ ประการคือ ๑.เมื่อท่องเที่ยวอยู่ในภพน้อยภพใหญ่ย่อมเป็นผู้อันมหาชนนอบน้อม ๒.ตัดความสงสัยได้ ๓.มีรูปงาม ๔.มีโภคสมบัติ ๕.มีปัญญากล้าสามารถพิจารณาเห็นอรรถอันเป็นฐานะอันละเอียดลึกซึ้งด้วยญาณอัน คมกล้า
การถวายมีดตัดเล็บย่อม มีอานิสงส์ ๕ ประการคือ ๑.ย่อมได้ทาสชายหญิง ๒.ได้วัวและม้า ๓.ได้คนฟ้อนรำ ๔.ได้ช่างตัดผม ๕.ได้พ่อครัวทำอาหารเป็นอันมากในที่ทั้งปวง
การถวายพัดใบตาลย่อมมีอานิสงส์ ๕ ประการคือ ๑.ไม่รู้สึกหนาว ๒.ไม่รู้สึกร้อน ๓.ไร้ความอบอ้าว ๔.ไร้ความกระวนกระวาย ๕.ไร้ความเดือดร้อนใจ
การถวายธมกรก (เครื่องกรองน้ำ) ย่อมมีอานิสงส์ ๕ ประการคือ ๑.ย่อมก้าวล่วงอันตรายทั้งปวง ๒.ย่อมได้อายุอันเป็นทิพย์ ๓.เป็นผู้อันโจรหรือข้าศึกไม่ข่มขี่ในกาลทุกเมื่อ ๔.อาวุธและยาพิษย่อมไม่เบียดเบียน ๕.ไม่ตายก่อนวัยอันควร
การถวายภาชนะน้ำมันย่อมมีอานิสงส์ ๕ ประการคือ ๑.เป็นผู้มีรูปสวยงาม ๒.มีความเจริญ ๓.มีใจเบิกบาน ๔.ไม่ฟุ้งซ่าน ๕.มีผู้อารักขา
การถวายกล่องเข็มย่อมมีอานิสงส์ ๓ ประการคือ ๑.มีความสุขใจ ๒.มีความสุขกาย ๓.มีความสุขอันเกิดแต่อิริยาบถ
การถวายผ้าอังสะย่อมมีอานิสงส์ ๓ ประการคือ ๑.ย่อมได้ความหนักในพระสัทธรรม ๒.ย่อมระลึกชาติที่แล้วมาได้ ๓.มีผิวพรรณอันงาม
การถวายประคดเอวย่อม มีอานิสงส์ ๖ ประการคือ ๑.ย่อมไม่หวั่นไหวในสมาธิ ๒.มีความชำนาญในสมาธิ ๓.มีบริษัทไม่แตกกัน ๔.มีถ้อยคำอันมหาชนเชื่อถือทุกเมื่อ ๕.มีสติตั้งมั่น ๖.ย่อมไม่มีความสะดุ้งกลัว
การถวายเชิงรองบาตร ย่อมมีอานิสงส์ ๓ ประการคือ ๑.ไม่มีภัย ๒.ไม่หวั่นไหวด้วยอะไรอะไร ๓.ธรรมเหล่าใดที่ได้ฟังแล้วย่อมทรงไว้ได้ไม่เสื่อมไป
การถวายภาชนะและเครื่องบริโภคย่อม มีอานิสงส์ ๔ ประการคือ ๑.ย่อมได้ภาชนะแก้วมณี ภาชนะแก้วผลึก และภาชนะแก้วทับทิม ๒.ภริยา ทาสชายหญิง พลช้างพลม้า พลรถ พลเดินเท้า และสตรีรับใช้ย่อมยำเกรงผู้นั้น ๓.ได้เครื่องบริโภคทุกเวลา ๔.ย่อมสามารถใคร่ครวญวิชาในบทมนต์อาคมต่างๆ ศิลปะทั้งปวง นำมาใช้ได้ทุกเวลา
การถวายขันย่อม มีอานิสงส์ ๓ ประการคือ ๑.ย่อมได้ขันทองคำ ขันแก้วมณี ขันแก้วผลึก ขันแก้วทับทิม ๒.น้ำที่ดื่มย่อมมีรสชาติหวาน ๓.มีข้อปฏิบัติในวัตรอันงามในอาจาระ และกิริยามารยาท
การถวายเภสัช ย่อมมีอานิสงส์ ๑๐ ประการคือ ๑.มีอายุยืน ๒.มีกำลัง ๓.มีปัญญา ๔.มีวรรณะ ๕.มียศ ๖.มีสุข ๗.ไม่มีอันตราย ๘.ไม่มีจัญไร ๙.มหาชนยำเกรงทุกเมื่อ ๑๐.ไม่พลัดพรากจากของรัก
การถวายรองเท้าย่อม มีอานิสงส์ ๓ ประการคือ ๑.ยานช้าง ยานม้า วอ ย่อมบังเกิดแก่เขา ๒.เมื่อเที่ยวไปในภพ รองเท้าแก้วมณี รองเท้าเงิน รองเท้าทองคำย่อมเกิดขึ้นในขณะยกเท้าขึ้น ๓.รถหกหมื่นคันย่อมแวดล้อม
การถวายผ้าเช็ดหน้าย่อม มีอานิสงส์ ๕ ประการคือ ๑.มีผิวพรรณดุจทองคำปราศจากธุลี ๒.มีรัศมีผ่องใส ๓.มีเดช ๔.เนื้อตัวผิวพรรณละเอียดอ่อน ๕.ฝุ่นละอองไม่ติดตัว
การถวายไม้เท้าคนแก่ย่อมมีอานิสงส์ ๕ ประการคือ ๑.มีบุตรมาก ๒.ไม่มีความสะดุ้งกลัว ๓.ได้รับการอารักขา ๔.ไม่พลั้งพลาด ๕. จิตใจไม่มีความขลาดกลัว
การถวายยาหยอดตาย่อม มีอานิสงส์ ๘ ประการคือ ๑.ตากลมกว้างใหญ่ ๒.เห็นสีเหลืองสีขาวอย่างชัดเจน ๓.เห็นสีแดงอย่างชัดเจน ๔.ตาไม่มัว ๕.ตาแจ่มใส ๖.ไม่เป็นโรคตาทั้งปวง ๗.ได้ตาทิพย์ ๘.ได้ดวงตาเห็นธรรม
การถวายลูกกุญแจ ย่อมมีอานิสงส์คือ ย่อมได้ลูกกุญแจคือญาณเป็นเครื่องเปิดประตูธรรมคือความรู้แจ้ง
การถวายแม่กุญแจ ย่อมมีอานิสงส์ ๒ ประการคือ ๑.เป็นผู้มีความโกรธน้อย ๒.ไม่มีความคับแค้นใจ
การถวายสายยู ย่อมมีอานิสงส์ ๕ ประการคือ ๑.มีสมาธิที่ไม่หวั่นไหว ๒.ชำนาญในสมาธิ ๓.มีพวกพ้องไม่แตกกัน ๔.มีถ้อยคำอันมหาชนเชื่อถือ ๕.ได้โภคสมบัติ
การถวายกล้องเป่าควันย่อมมีอานิสงส์ ๓ ประการคือ ๑.มีสติตั้งตรงคงที่ ๒.เส้นเอ็นต่อเนื่องกันดี ๓.ย่อมได้ตาทิพย์
การถวายตะเกียงตั้งย่อมมีอานิสงส์ ๓ ประการคือ ๑.เป็นผู้มีสกุล ๒.มีอวัยวะสมบูรณ์ ๓.มีปัญญาอันพระพุทธเจ้าสรรเสริญ
การถวายคนโทน้ำ และผอบ ย่อมมีอานิสงส์ ๑๐ ประการคือ ๑.ได้รับการคุ้มครอง ๒.พร้อมพรั่งด้วยสุข ๓.มียศมาก ๔.มีคติ ๕.ไม่มีความวิบัติ ๖.เป็นผู้ละเอียดอ่อน ๗.เว้นจากความจัญไรทั้งปวง ๘.เป็นผู้ได้คุณอันไพบูลย์ ๙.ได้ความนับถือ ๑๐.พ้นจากความหวาดเสียว
การถวายผ้าเช็ดสิ่งสกปรกย่อมมีอานิสงส์ ๕ ประการคือ ๑.ถึงพร้อมด้วยลักษณะ ๒.มีอายุยืน ๓.มีปัญญา ๔.มีจิตมั่นคง ๕.กายพ้นจากความยากลำบากทุกอย่างในกาลทั้งปวง
การถวายมีดและกรรไกรย่อมมีอานิสงส์คือ ได้ญาณเป็นเครื่องตัดกิเลสอันคมกล้า
การถวายคีมย่อมมีอานิสงส์คือ ได้ญาณเป็นเครื่องถอดถอนกิเลสอันหนักหน่วง
การถวายยานัตถุ์ย่อมมีอานิสงส์ ๘ ประการคือ ๑.มีศรัทธา ๒.มีศีล ๓.มีหิริ ๔.มีโอตตัปปะ ๕.มีสุตะ ๖.มีจาคะ ๗.มีขันติ ๘.มีปัญญา
การถวายตั่งย่อม มีอานิสงส์ ๕ ประการคือ ๑.เกิดในตระกูลสูงมีโภคสมบัติมาก ๒.ชนทั้งปวงย่อมยำเกรง ๓.ชื่อเสียงฟุ้งไป ๔.บัลลังก์ย่อมเกิดขึ้น ๕.ยินดีในการจำแนกทาน
การถวายที่นอนย่อม มีอานิสงส์ ๖ ประการคือ ๑.มีร่างกายสมส่วน ๒.เป็นผู้อ่อนโยนมีรูปงามน่าดู ๓.ย่อมได้ญาณอันประเสริฐ ๔.ย่อมได้เครื่องนอนเครื่องลาดอันวิจิตร ๕.ย่อมได้ที่นอนขนสัตว์อันอ่อนนุ่ม ๖.ย่อมได้บรรลุฌาน
การถวายหมอนย่อม มีอานิสงส์ ๖ ประการคือ ๑.ย่อมได้หมอนอันวิจิตร ๒.ย่อมได้ญาณในมรรคผล ๓.ย่อมได้ญาณในทาน สัญญมะ อัปปมัญญา และรูปฌาณ ๔.ย่อมได้ญาณในศีลและวัตร ๕.ย่อมได้ญาณในการจงกรมและการทำความเพียร ๖.ย่อมได้ญาณในศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ และในวิมุตติญาณทัสสนะ
การถวายตั่งแผ่นกระดานย่อมได้อานิสงส์คือ ย่อมได้บัลลังก์อันประเสริฐอันทำด้วยทองคำ แก้วมณีและงาช้าง
การถวายตั่งรองเท้า ย่อมได้อานิสงส์ ๒ ประการคือ ๑.ย่อมได้ยวดยานเป็นอันมาก ๒.บริวารย่อมปรนนิบัติโดยชอบ
การถวายน้ำมันสำหรับทาเท้าย่อมได้อานิสงส์ ๕ ประการคือ ๑.ไม่ป่วยไข้ ๒.มีรูปงาม ๓.เส้นเอ็นเส้นประสาทรับสัมผัสเร็ว ๔.ได้ข้าวและน้ำ ๕.มีอายุยืน
การถวายเนยใสและน้ำมันย่อมมีอานิสงส์ ๕ ประการคือ ๑.เป็นผู้มีกำลัง ๒.มีรูปสมบูรณ์ ๓.เป็นผู้ร่าเริงทุกเมื่อ ๔.มีบุตรตามต้องการ ๕.ไม่ป่วยไข้
การถวายน้ำบ้วนปาก ย่อมมีอานิสงส์ ๕ ประการคือ ๑.มีลำคอบริสุทธิ์ ๒.มีเสียงไพเราะ ๓.ไม่เป็นโรคไอ ๔.ไม่เป็นโรคหอบหืด ๕.กลิ่นปากหอม
การถวายนมส้มอย่างดีย่อมมีอานิสงส์คือ ย่อมได้บริโภคภัตไม่ขาดสายและย่อมบรรลุกายคตาสติกรรมฐาน
การถวายน้ำผึ้งย่อมได้บรรลุวิมุตติธรรม
การถวายข้าวและน้ำย่อม มีอานิสงส์ ๑๐ ประการคือ ๑.มีอายุยืน ๒.มีกำลัง ๓.เป็นนักปราชญ์ ๔.มีวรรณะ ๕.มียศ ๖.มีสุข ๗.เป็นผู้ได้ข้าว ๘.เป็นผู้ได้น้ำ ๙.เป็นคนกล้า ๑๐.มีญาณรู้ทั่ว
การถวายธูปย่อม มีอานิสงส์ ๑๐ ประการคือ ๑.มีกลิ่นตัวหอมฟุ้ง ๒.มียศ ๓.มีปัญญาเร็ว ๔.มีชื่อเสียง ๕.มีปัญญาคมกล้า ๖.มีปัญญากว้างขวาง ๗.มีปัญญาร่าเริง ๘.มีปัญญาลึกซึ้ง ๙.มีปัญญาแล่นไป ๑๐.ได้บรรลุนิพพาน
เมื่อท่านพระปิลินทวัจ ฉะได้กล่าวแสดงอานิสงส์แห่งการถวายทานในอดีตชาติที่ท่านเคยได้รับผลอัน ประเสริฐมาอย่างมากมาย ซึ่งท่านรู้แจ้งด้วยญาณอันประเสริฐของความเป็นพระอรหันต์ของท่าน แล้วท่านพระปิลินทวัจฉะได้อุทานธรรมด้วยโสมนัสของท่านต่ออีกว่า
การที่เราได้มาในสำนักพระพุทธเจ้าพระองค์นี้ เป็นการมาดีแล้วหนอ วิชชา ๓ ประการเราบรรลุแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้าเราได้ทำเสร็จแล้ว
เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ถอนภพชาติขึ้นได้ทั้งหมดแล้ว ตัดกิเลสเครื่องผูกดุจช้างตัดเชือกแล้ว เป็นผู้ไม่มีอาสวะอยู่
คุณวิเศษเหล่านี้คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ เราได้ทำให้แจ้งแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้าเราได้ทำเสร็จแล้วดังนี้
ทราบว่าท่านพระปิลินทวัจฉเถระได้กล่าวคาถาอันไพเราะเหล่านี้ไว้ด้วยประการฉะนี้แล