
เทวดาประจำตัว
ภพภูมิของเทพ-เทวดามีทั้งหมด ๖ ชั้นนับจากโลกมนุษย์ขึ้นไป จะอยู่ในสภาวะหรือมีสภาพร่างกายและทุกอย่างเป็นทิพย์ทั้งหมด(อากาศธาตุ) จะไม่มีรูปร่างที่จับต้องได้ด้วยกายหรือมองเห็นได้ด้วยตาเนื้อของมนุษย์ได้ เราจะรู้เห็นและสัมผัสได้โดยทางจิตเท่านั้นและจะต้องเป็นจิตที่ได้รับการฝึกฝนมาแล้วเป็นอย่างดีถึงขั้นที่เรียกว่าได้ ' อภิญญาจิต '
ภพภูมิของเทพเทวดานั้นมีแต่เสวยและรับแต่ความสุข ความเกษมสำราญแต่เพียงอย่างเดียวไม่มีความทุกข์ยากลำบากอะไร เพราะอยากจะได้หรืออยากจะมีอะไรแค่ทำการนึกคิดเอาก็ได้สมประสงค์สมปรารถนาทุกอย่าง เทพเทวดาก็มีอารมณ์มีความรู้สึกรัก โลภ โกรธ หลง มีครอบครัว มีพ่อแม่ มีลูกมีหลานเหมือนกับมนุษย์ทุกอย่าง เทพเทวดาก็มีทุกข์เหมือนกัน มีตอนที่รู้ว่าบุญใกล้จะหมดแล้วจะต้องลงมาเกิดยังโลกมนุษย์และทุกข์มากๆ ถ้ามาเกิดยังโลกมนุษย์แล้วไม่ได้เกิดเป็นมนุษย์ เพราะการที่ได้มาเกิดเป็นมนุษย์นั้นสมารถทำตัวเอง ศึกษาหลักธรรมแล้วปฏิบัติฝึกจิตของตนเองให้หลุดพ้นเข้าสู่พระนิพพานได้
เทพเทวดาเหล่านี้มาจากไหน? ก็เป็นดวงจิตดวงวิญญาณที่มาจากมนุษย์ที่ตายแล้วและเป็นมนุษย์ที่มีทาน มีศีล มีภาวนา(ยังไม่สำเร็จฌาน)และมีธรรม เพราะผลของบุญกุศลที่ได้ทำมานี้ จะส่งผลให้จิตของเขาไปเกิดเป็นเทพเทวดา จะไปเกิดที่ชั้นไหนสูงหรือไม่ จะไปเกิดกับครอบครัวกับพ่อแม่คู่ไหนบนสวรรค์นั้น ก็ขึ้นอยู่กับผลของบุญกุศลที่ได้กระทำไว้ตอนเป็นมนุษย์นั้นไปสมพงษ์หรือพอดีกับพ่อแม่ที่เป็นเทพเทวดาคู่ไหนและบนสวรรค์ชั้นไหนอีกที ......
การลงมาเกิดยังโลกมนุษย์ของเทวดานั้นมีด้วยกันหลายสาเหตุ เท่าที่รู้และจากประสบการณ์ที่ทำงานนี้มาก็มี ......
๑. หมดบุญหรือหมดอายุขัย
๒. ทำผิดกฎของสวรรค์
๓. ถูกส่งให้ลงมาทำหน้าที่ยังโลกมนุษย์
สวรรค์มีทั้งหมด ๖ ชั้น(ชั้นของเทพเทวดา)โดยมีดังนี้ ......
๑. ชั้นที่ ๑ เรียกชั้น จาตุมหาราชิกา
มีอายุ ๙ ล้านปีมนุษย์
๒. ชั้นที่ ๒ เรียกชั้น ตาวติงสา หรือ ดาวดึงส์
มีอายุ ๓๖ ล้านปีมนุษย์
๓. ชั้นที่ ๓ เรียกชั้น ยามา
มีอายุ ๑๔๔ ล้านปีมนุษย์
๔. ชั้นที่ ๔ เรียกชั้น ตุสิตา หรือ ดุสิต
มีอายุ ๕๗๖ ล้านปีมนุษย์
๕. ชั้นที่ ๕ เรียกชั้น นิมมานรตี
มีอายุ ๒,๓๐๔ ล้านปีมนุษย์
๖. ชั้นที่ ๖ เรียกชั้น ปรนิมมิตวสวัตตี
มีอายุ ๙,๒๑๖ ล้านปีมนุษย์
เมื่อหญิงชาย(พ่อ-แม่)ยังโลกมนุษย์ได้ร่วมหลับนอนกัน เชื้ออสุจิของชาย(พ่อ)เข้าผสมไข่ของหญิงแล้ว มีดวงจิตของเทพเทวดาองค์หนึ่งองค์ใดได้หมดบุญจากสวรรค์ลงมาผสม(ปฏิสนธิวิญญาณ) มาร(เทพบุตรมาร)ก็ตามลงมาผสมด้วยอีก เพื่อขัดขวางการสร้างบุญบารมีของเทพเทวดาตนนี้ พ่อแม่ พี่ น้องหรือเพื่อนๆที่อยู่บนสวรรค์ด้วยกันอย่างใดอย่างหนึ่งก็ลงตามมาผสมด้วยหนึ่งดวงจิต เพื่อดูแลให้ความช่วยเหลือปกป้องเรา ทุกเรื่องจากการกลั่นแกล้งของพวกมาร ตามมาด้วยความรักและความเป็นห่วงตลอดช่วงอายุของการเกิดมาเป็นมนุษย์ของเรา เรียกเทพเทวดาเหล่านี้ว่า ' เทวดาประจำตัว ' แต่พอถึงเวลาเข้าจริงๆแล้วเทพเทวดาเหล่านี้กลับช่วยเหลืออะไรเราไม่ได้ เพราะมีพลังน้อยกว่าพวกมาร ก็ได้แต่ยืนดูเราห่างๆช่วยเหลืออะไรเราไม่ได้เวลาเราตกทุกข์ได้ยากเกิดความลำบาก
ถ้าหากเทพเทวดา ประจำตัวของใครเป็นผู้หญิงจิตใจและลักษณะอาการของมนุษย์ คนๆนั้นก็จะออกไปลักษณะทางผู้หญิง ถ้าเป็นร่างของมนุษย์ ผู้ชายก็จะเป็น กะเทย และถ้าหากเทพเทวดาประจำตัวของใครเป็นผู้ชายจิตใจและลักษณะอาการของมนุษย์คนๆนั้นก็จะออกไป
ลักษณะทางผู้ชายเหมือนกัน ถ้าเป็นร่างของมนุษย์ผู้หญิงก็จะเป็น ทอม การที่มนุษย์คนไหนเป็นทอมหรือกระเทยนั้น ก็มีสาเหตุมาจากผลของกรรมในอดีตชาติและมาจากเหล่าเทพเทวดาที่ทำผิดกฎสวรรค์ด้วยเช่นกัน
ท่านทราบหรือไม่ว่าเทวดาประจำตัว
ของท่านเป็นใคร? ชื่ออะไร? มาจากชั้นไหน? เกี่ยวข้องกับท่านอย่างไร?
มีผลและมีอิทธิพลต่อตัวของท่านอย่างไร?
ท่านควรที่จะปฏิบัติตนและแก้ไขอย่างไรบ้าง?
ถ้าอยากรู้ปฏิบัติธรรม ทาน ศีล ภาวนาให้ครบถ้วนแล้วท่านจะทราบได้ รู้ก็ให้ถือว่ารู้ อย่าได้นำมาเก็บไปคิดให้เป็นทุกข์ รู้ว่ามีจริง อยู่จริง ก็ตั้งหน้าตั้งตาทำความดีต่อไป
ทำบุญทุกครัังมีการแผ่ส่วนกุศลให้เทพเทวดา ทั้งหลาย ท่านเหล่านั้นจะได้รับบุญจากเราอนุโมทนาด้วย

เทวดามาสร้างบารมี
จะคล้ายกับเทวดาประจำตัวของเรา จะแตกต่างตรงที่ว่า เทพเทวดาเหล่านี้ จะมีความเกี่ยวข้องกับเราสมัยยังเป็นมนุษย์มาแล้ว เช่น เราเคยเกิดเป็นข้าทาสหรือบริวารของกษัตริย์พระองค์ใดพระองค์หนึ่ง พอเรามาเกิดในชาตินี้ ท่านก็จะตามมาช่วยเหลือและดูแลเรา ส่วนมากจะเรียกว่า “ มีองค์ หรือ องค์ใน ”
บางคนมีความเกี่ยวข้องกันก่อนสมัยพระพุทธองค์เสียอีก ถ้าหากมีมารขวาง ท่านก็ช่วยเราไม่ได้อีกเช่นกันเผลอ ๆ มารก็จะปลอมเป็นองค์ใน หรือ ตัวของท่านเสียเลย ตาเนื้อของมนุษย์มองไม่เห็น จึงคิดว่าสิ่งเหล่านี้ไม่มีจริง ทำให้เกิดความไม่เชื่อ พอไม่เชื่อบางคนก็ลบหลู่ ผลกรรมก็จะเกิดกับตัวของเขาเอง จะส่งผลก็ต่อเมื่อกรรมที่เป็นอกุศลในตัวของเขาส่งผลหรือว่าบุญของเขาหมดก่อนนั่นแหละ ทุก ๆ วันนี้ต้องพูดด้วยเหตุผลและหลักฐานจึงจะ
ยอมรับกัน แต่บางสิ่งบางอย่างในโลกนี้ ก็หาหลักฐานและเหตุผลมาพิสูจน์ไม่ได้เหมือนกัน เพราะเป็นเรื่องของนาม เป็นเรื่องของจิตวิญญาณ การที่จะสัมผัสกับสิ่งเหล่านี้ได้ จิตจะต้องได้รับการฝึกจิตมาดีพอสมควร
ทั้งในเรื่องของทาน ศีล สมาธิและธรรม ฝึกจนจิตได้ญาณ อย่าลืมนะว่าคนที่คอยช่วยเหลือเราก็คือ เทวดาประจำตัวของเราและเทพเทวดาที่มาสร้างบารมีร่วมกับเรา แต่ในที่นี้ต้องไม่มีมารแทรกอยู่ เขาถึงจะช่วยเราได้เต็มที่ ทำไมเราจึงเห็นคนบางคนมีองค์หรือมีอะไรแฝงอยู่ซึ่งไม่เหมือนกับคนธรรมดามีที่มาพอจะเล่าให้ทราบย่อ ๆ คือ มีอยู่ครั้งหนึ่งพระอานนท์ได้ทูลถามพระพุทธองค์ว่า อีกนานเท่าไรคำสอนของพระพุทธองค์จะหมดไปจากโลกนี้ พระพุทธองค์ตอบ พระอานนท์ว่าอีก ๕,๐๐๐ ปี เมื่อทราบว่าเป็นเช่นนี้พระภิกษุ พระภิกษุณี สามเณร อุบาสก อุบาสิกา เป็นผู้ขอทำนุบำรุงดูแลรักษาคำสอนทางพระพุทธศาสนา ๒๕๐๐ ปี ส่วน ๒,๕๐๐ ปีหลังเหล่าองค์เทพเทวดาทั้งหลาย ขอลง มาทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาต่อจากมนุษย์ทั้งหลายเป็นเวลา ๑,๒๕๐ ปีและส่วนที่เหลืออีก ๑,๒๕๐ ปี สุดท้าย พวก ยักษ์พวกมาร ขอลงมาทำนุบำรุงดูแลพระพุทธศาสนาในช่วงสุดท้ายแทนต่อจากเหล่าเทพเทวดา
จึงต้องทำให้คำสอนของพระพุทธเจ้าพระองค์นี้ต้องหมดไปเพราะพวกยักษ์ พวกมารย่อมไม่ทำให้เจริญแน่นอนซึ่งในช่วงนี้ก็เป็นช่วงของเหล่าเทพเทวดาลงมาทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เวลาก็ได้ผ่านไปแล้วในปัจจุบันนี้ผ่านได้ ๔๘ ปี ที่เข้าสู่ช่วงเหล่าเทพเทวดา เราจะเห็นว่าในปัจจุบันจะมีการค้าพระพุทธขุดพระธรรมและก็ยำพระสงฆ์ให้เห็นกันอยู่ประจำ ค้าพระพุทธหมายความว่า มีการหล่อ กดพิมพ์พระพุทธรูปขายกันเป็นสินค้ากันและก็วางขายกันอย่างกับ ไม่ใช่ของสูงที่เคารพบูชาอย่างนั้น ส่วนขุดพระธรรมก็หมายถึง การพิมพ์ ตำรับตำราขายกันจริงบ้างหลอกบ้าง ส่วนยำพระสงฆ์ทุกท่านก็คงเห็นข่าวทางสื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ ทำลายภาพพจน์ของพระสงฆ์ทำลายความศรัทราของชาวพุทธที่มีต่อพระศาสนาลงไปเรื่อย ๆ ส่วนเหล่าเทพเทวดาก็ยังทำ อะไรได้ไม่เต็มที่ เพราะเทวดาเป็นแค่ดวงจิต ดวงวิญญาณ ไม่มีร่างกาย ฉะนั้นการที่จะมาทำงานตรงนี้ได้ ให้สำฤทธิ์ผลก็จะต้องมีร่างกายที่สามารถจับต้องและเคลื่อนไหวได้ ท่านก็เลยต้องหาร่างและร่างที่ดีที่สุดก็คือร่างของมนุษย์นี่แหละ จู่ๆท่านจะไปเอาหรือยึด ใครมาเป็นร่างของท่านเลยทันทีไม่ได้ ผู้ที่จะเป็นร่างของท่านได้นั้น ในอดีตจะต้องเป็นสายเลือดมี ความผูกพันกันมาก่อนเช่น ลูกศิษย์กับอาจารย์เป็นต้น
บางทีเราไม่ยอมรับท่าน ท่านก็จะทำให้เรา ต้องยอมรับท่านให้ได้ โดยการสื่อสารทางต่างๆ ดลใจให้ไปวัด สมาธิ ทำทาน ปฏิบัติ ธรรมเพื่อให้เรามีบุญกุศลทำให้บารมีพร้อม เทพเทวดาที่ดีจะไม่มีทางทำร้ายให้เราเจ็บป่วย หรือไม่รับองค์เทพแล้วจะทำการงานเราให้แย่ ท่านจะไม่ทำแบบนั้น นอกจากว่าเราไม่เชื่อ ลบลู่ท่าน ท่านก็จะสอนให้เรารู้บ้างเล็กๆ น้อยๆ แต่ไม่ถึงกลับว่าน้ำตาตกใน เทพเทวดาที่ดีท่านจะสร้างแต่ความดี ท่านไม่ทำร้ายใครให้เป็นบาปแน่นอน
เมื่อทราบว่ามีเทพเทวดามาอยู่ด้วยแล้ว เราก็ปฏิบัติตนสะสมความดี แผ่ส่วนกุศลไปให้ท่านและอื่นๆ ไม่ไช่ว่าจะมาข่มและอวดบารมีกันว่า ข้าองค์ใหญ่ ท่านองค์เล็ก ของข้าบารมีเยอะของท่านบารมีน้อย ข้ามาก่อนส่วนแกมาทีหลัง
พอมนุษย์เป็นอย่างนี้ มารก็ได้โอกาสชิงเป็นตัวของท่านไปเสียเลย ทำให้เสียทั้งคนและเสียทั้งเทวดาไปเลย เทวดาก็เลยหมดโอกาสที่จะได้สร้าง
บุญบารมีและมารก็จะพามนุษย์คนนั้นให้ตกต่ำไป ยิ่งตัวมนุษย์ไม่มี ศีล มีธรรมแล้ว มารยิ่งมีพลังมาก
พอตัวของเรามีปัญหาเขาจะทักเราว่า “ มีองค์ ” จะต้อง ทำการรับขันธ์และเสริมบารมี ไม่จำเป็นต้องรับขันธ์ เขาต้องการให้เราเป็นลูกศิทย์เขาเท่านั้น เนื่องจากเทวดาพาล หรือมาร ก็สามารถมีความรู้ในเรื่องต่างๆ ได้ เขาก็อาจจะดูดวงให้เราแม่นจนเราเชื่อ แต่ขอย้ำ อย่ารับขันธ์เด็ดขาด
หลังจากที่เข้าไปหาเขาแล้ว ต่อจากนั้นคุณก็จะต้องเข้าไปหาเขาอีก ส่วนเวลาที่เหลืออีกหนึ่งพันสองร้อยห้าสิบปีหลังที่เหลือ พวกลูกยักษ์หลานมาร ขอมาเป็นผู้ทำนุบำรุงดูแลพระพุทธศาสนาในช่วงสุดท้าย ที่นี้ไม่ต้องพูดและคิดแล้วว่า อะไรจะเกิดขึ้น กับคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ ว่าจะเป็นอย่างไร ขณะที่พระพุทธองค์ ยังมีพระชนม์ชีพอยู่ พวกมารยังขัดขวางและจะทำลายเลย พระพุทธองค์ใครขอใคร นิมนต์อะไรท่านก็ทรงให้หมด หลังจากช่วงที่พวกลูกยักษ์หลานมารเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้แล้ว สังคมมนุษย์ก็จะเข้าสู่กลียุคไปเรื่อยทุก ๆ วัน มนุษย์จะห่างไกลจากคำสอนในทางพระพุทธศาสนา ไม่มีศีล เข่นฆ่ากัน ขาดการปฏิบัติธรรม ไม่มีความเชื่อความ
ศรัทธาในพระพุทธ ในพระธรรม ในพระสงฆ์ ว่าปฏิบัติแล้วจะมีความสุขความเจริญได้ จริงความเชื่อความศรัทธาก็ลดน้อยลง พอพลังศรัทธาหมดลดน้อยลง ผู้ที่เป็นพระ ที่มีหน้าที่ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาก็ต้องออกทำมาหา กิน ปลูกผักปลูกหญ้าและหุงหาอาหารกินกันเอง เวลาที่จะ ไปศึกษาธรรม และปฏิบัติธรรมก็ไม่มี สุดท้ายที่สุดก็เหลือผ้าเหลืองน้อยห้อยหู ห้อยคอ หรือผูกข้อมือเอาไว้เป็นเครื่องแสดงว่านี่แหละคือพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา มีไว้เป็นผู้ประกอบหรือทำพิธีกรรมต่างๆเท่านั้น หลังจากครบ ๕,๐๐๐ ปีแล้วคำสอนก็หมดไป มนุษย์ก็เข้าสู่กาลของกลียุค มนุษย์จะไม่มีศีลไม่มีธรรม อยู่กันอย่าง สัตว์ดิรัจฉานไม่รู้จักพ่อ ไม่รู้จักแม่ไม่รู้จักลูก พอแต่งงานกันได้ลูกหญิงหรือลูกชาย พอลูกโตขึ้น พ่อก็เอาลูกหญิงเป็นภรรยาแม่ก็เอาลูกชายเป็นสามี พี่เอาน้อง น้องเอาพี่ สังคมของมนุษย์จะเห็นแก่ตัวกันมากขึ้น เริ่มจากคนรอบข้างก่อนหลังจากนั้นก็คนที่ไกลตัวออกไป ท้ายสุดก็ตัวใครตัวมัน ความผูกพันในสายเลือดก็หมดไป
ในปัจจุบันก็เริ่มเกิดขึ้นแล้ว เหตุการณ์เหล่านี้จะเลวร้ายลงไปเรื่อยๆ จนกว่ามนุษย์จะมีอายุขัยเพียง ๑๐ ปีแล้วก็จะตาย พออายุได้ปีสองปี
ก็ต้องมีครอบครัวกันแล้ว ตอนนั้นมนุษย์จะตัวเตี้ย จะต้องสอยพริกสอยมะเขือกิน จะเข่นฆ่ากันเอง หลังจากนั้นมนุษย์ก็เริ่มรู้ว่าอะไรชั่ว
และอะไรดีแล้ว ก็หันกลับมารักษาศีล มาปฏิบัติธรรม กันชีวิตของมนุษย์ก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากสิบปี เป็นยี่สิบ สามสิบ เป็นร้อย เป็นพัน
เป็นหมื่น เป็นแสน เป็นโกฏิ จนถึงหนึ่งอสงไขย พออายุยืนนานมาก มนุษย์ก็ไม่รู้จักความตายจึงเกิดความประมาท อายุก็ลดลงมาๆ
จนถึงแปดหมื่นปีถึงจะตาย กาลนั้นแหละก็จะเป็นยุคของพระศรีอาริยเมตไตรย จะเป็นยุคเริ่มต้นของมนุษย์ที่มี ศีลธรรมเจริญรุ่ง
เรืองมากที่สุด
ส่วนผู้ที่ปรารถนาจะไปเกิดในยุคของพระศรีอาริเมตไตรก็ให้ทำดังนี้คือ
๑. รักษาศีลห้าให้บริสุทธิ์
๒.ฟังเทศน์พระเวสสันดรสิบสามกัณฑ์ให้จบภายในหนึ่งวันและหนึ่งคืน
๓. ให้ตั้งจิตอธิษฐานว่า ขอให้ได้ไปเกิดร่วมพระชาติเดียวกันกับพระ
องค์ท่าน ตอนนี้ท่านเป็นเทพ อยู่สวรรค์ชั้นดุสิต ( ชั้น ๔ )
พอหมดบุญจากสวรรค์ชั้นดุสิตแล้ว จะมาจุติยังโลกมนุษย์อีกครั้งเพื่อจะมา สร้างบำเพ็ญทานบารมี มีเช่นเดียวกับพระเวสสันดร พอดับจากชาติที่ บำเพ็ญทานบารมีนี้แล้ว ก็จะไปจุติยังสวรรค์ชั้นดุสิตอีก หลังจากนั้นจึงจะมาจุติยังโลกมนุษย์อีกครั้ง มาตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์สุดท้ายในจักรวาลนี้ มีพระนามว่า “สมเด็จพระศรีอาริเมตไตร” แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะหมดและมีเพียงเท่านี้ยังมีอีกอย่างน้อยก็อีก ๘ ถึง ๙ พระองค์ เรายังจะต้องเวียนตายเวียนเกิดกันอีกนาน...........
เทวดาที่จะมาสร้างบารมี ของเราเป็นใคร? มีพระนามว่าอะไร ? น้อมจิตน้อมใจรับรู้และตั้งรับองค์ท่านเสีย พากันให้ทาน พากันรักษาศีล พากันเจริญสมาธิและศึกษาธรรม ทำให้ถูกต้อง ความสุข ความสบาย ความเจริญ ทรัพย์สินเงินทอง ความร่ำรวย สุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงทุกสิ่งทั้งหมดทั้งหลายจะได้ตกอยู่ที่ตัวของเรา โดยการสร้างบารมีของเราไปพร้อมกับพระองค์ท่าน ……

สรุปทั้งหมดโดยลูกสาวพ่อ มหาเทพประทานพร
เทวดาประจำตัวมีจริง ผู้ใดปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบเทวดาก็จะมาคุ้มครองรักษา แบบนี้มีทุกคน เนื่องจากเคยเป็นญาติมาก่อนในหลายๆ ภพชาติ หรือชาติไหนแล้วเขาจำเราได้จึงมาคอยดูแล
ส่วนอีกกรณีคือ เทวดาลงมาสร้างบารมี หรือเรียกว่า มีองค์ องค์ใน มารับแขกมาช่วยเพื่อนมนุษย์ที่ได้รับความทุกข์หลงทาง โดยจะมาในรูปของญาณเทพ ประทับร่างทรง แต่ระวังคือ ไม่จำเป็นต้องไปรับขันธ์เป็นศิทย์อาจารย์ไหน ๆ ขอเพียงแต่คุณปฏิบัติธรรมะ ตามคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า ปฏิบัติกรรมฐาน ให้มากแล้วคุณจะรู้เอง เห็นเอง
ข้อควรระวังคือ ห้ามหลง ห้ามคิดว่าตัวเองเป็นเทพ เป็นเทวดาไป เราคือเรา สิ่งใดที่เห็นในฝันหรือในนิมิตรสมาธิ เห็นก็ถือว่าเห็น อย่าได้เอามาคิด เอากิเลสเข้ามาปะปน หากว่าเราหลง เราคิดว่าเราเก่ง เราเป็นผู้วิเศษแล้ว เทวดาที่ดีจะไปจากเรา เพราะว่าบุญและบารมีของเราไม่ถึงคุณงามความดีของท่าน ดังนั้น เมื่อเทพเทวดาดีไปแล้ว จะกลายเป็นพวกเทวดาพาลหรือมาร มาคอยควบคุมท่าน
พวกร่างทรง หากว่าจะไปหา ปรึกษาใคร ให้ดูการปฏิบัติตัวของร่างทาง ศีล 5 ไหม ปฏิบัติธรรม ใจเย็น ไม่พูดอวดโอ้ หน้าตาก็เป็นส่วนหนึ่ง ส่วนใหญ่แล้วคนนิสัยดีหน้าตาท่าทางก็น่าเคารพนับถือ รัศมี ออร่ามันออก และเวลาไปตำหนักหาร่างทาง ให้สังเกตุดูสถานที่อย่าให้เป็นพาณิชย์คิดแต่เงิน ขอให้พิจารณา ถ้าท่านแนะนำให้ทำบุญ ให้ทำตัวเองให้ดี โดยไม่มีพิธีกรรมต่างๆที่จะต้องกลับมาทำกับร่างทรงนั้นถือว่าดีใช้ได้ ยึดหลักพระธรรม พระพุทธศาสนาจะถือว่าดีที่สุด
สุดท้ายนี้ขอให้ทุกท่านพิจารณาให้ดี อย่าให้โดนหลอกไปเสียทรัพย์ เสียเวลา เสียความรู้สึก แล้วอย่าลบหลู่ว่า เทพเทวดา ไม่มีจริง
อนึ่ง ตำหนักมหาเทพประทานพร รับตรวจองค์เทพประจำตัวด้วย
โดยให้ส่งข้อความมาใน facebook เพจ หรือในเวปนี้
บางท่านหากเทพประจำตัวไม่อยากบอก ก็บอกไม่ได้
ขอขอบคุณ อนุโมทนาบทความจาก internet บางส่วน
รวบรวมและเขียนเพิ่มเติมโดย ลูกสาวพ่อ มหาเทพประทานพร

โพสถาม เทวดาประจำตัวได้ที่
http://www.facebook.com/mahatepbless
วิธีขอรับการตรวจเทวดาประจำตัว
1. กด LIKE เพจ
2. ส่งข้อความมาที่เพจ ระบุ วันเดือนปีเกิด (ไม่รับตรวจเด็กนะค่ะ)
3. แนบรูปถ่ายเห็นหน้าและดวงตาชัดเจน
4. กรณีที่ตรวจแล้วทราบว่าองค์ไหน วิธีปฏิบัติตัวคือเป็นคนดี ศีล 5 สวดมนต์ นั่งสมาธิ บริจาคทาน มีอะไรนึกถึงท่าน
5. กรณีตรวจไม่ได้(กรรมบัง หรือช่วงนั้นมีเคราะห์ หรือไม่ค่อยทำบุญเลย) จะแนะนำให้ทำบุญ สวดมนต์แผ่เมตตา แผ่ส่วนกุศลไปให้พ่อแม่ครูอาจารย์ ญาติ เทวดาประจำตัว เจ้ากรรมนายเวร เปรต สัตว์ทั้งหลายก่อนแล้วจึงมาส่งข้อความถามใหม่เมื่อได้ไปทำบุญ และปฏิบัติดังเกล่ามาแล้ว
อ่านให้เข้าใจและส่งข้อมูลให้ชัดเจนนะค่ะ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาขอข้อมูล มีคนมารับตรวจเยอะ ถ้าอาจารย์ไม่ว่างก็จะไม่ได้เข้ามาเลยค่ะ ต้องรอเวลาว่างจริงๆ ถึงจะมาตรวจให้
โดย ลูกสาวพ่อ มหาเทพประทานพร